ทำความรู้จักกับไพ่เสือมังกร
ทำความรู้จักกับไพ่เสือมังกร กฎกติกาการเล่น รูปแบบการเดิมพัน
ไพ่เสือมังกร หรืออีกชื่อเรียกว่า ดราก้อนไทเกอร์ (Dragon Tiger) เป็นเกมคาสิโนตระกูลไพ่ที่ถือว่าเล่นง่ายและใช้เวลาน้อยที่สุด โดยมีต้นกำเนิดมาจากประเทศกัมพูชา ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจนทำให้เกม Dragon Tiger และได้แพร่หลายไปยังบ่อนคาสิโนทั่วโลกทำให้เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยรูปแบบการเล่นที่ง่ายและใช้เวลาที่น้อยจึงเป็นจุดเด่นที่ทำให้เหล่านักพนันต่างกันชื่นชอบ ทำให้เป็นที่รู้จักไปอย่างกว้างขวางในระยะเวลาเพียงไม่นาน ไพ่เสือมังกร ก็ติดอันดับเกมคาสิโนยอดนิยมที่มีผู้เข้าเล่นมากที่สุดอันดับต้นๆ
กติกาการเล่นเกมไพ่เสือมังกร
ไพ่เสือมังกร เป็นเกมคาสิโนที่จะใช้ไพ่ทั้งหมดจำนวน 52 ใบ แต่จะเอาไพ่ Joker ในการเล่นนั้นจะมีฝั่งให้คุณเลือกอยู่ 2 ฝั่งนั้นคือ ฝั่งเสือ และ ฝั่งมังกร โดยจะทำการแจกไพ่ฝั่งละหนึ่งใบ ถ้าฝั่งไหนแต้มสูงกว่าถือว่าชนะ โดยก่อนเริ่มเกมทุกครั้งคาสิโนจะมีเวลาให้เลือกวางเดิมพันประมาณ 25 วินาที การวางเดิมพันส่วนหลักๆ จะมีอยู่ 3 รูปแบบ นั้นคือ เสือ , เสมอ , มังกร ซึ่งบางคาสิโนออนไลน์ก็จะสามารถเลือกวางเดิมพัน คี่-คู่ , สีแดง-ดำ ได้ด้วยนั้นก็ขึ้นอยู่แต่ละคาสิโนว่าจะเปิดให้เดิมพันหรือไม่ จุดเด่นของเกมนี้นั้นคือสามารถวางเดิมพันได้มากกว่า 1 จุด มาพร้อมกับอัตราการจ่ายก็สูงใช้ได้เลยทำให้ผู้ที่กำลังมองหาช่องทางทำเงินที่ได้แบบรวดเร็วต้องห้ามพลาดเด็ดขาด
วิธีการนับแต้มไพ่เสือมังกร
การนับแต้มนั้นก็จะคล้ายๆ กับไพ่บาคาร่านั้นเองจึงทำให้เล่นง่ายไม่ยุ่งยากเหมาะสำหรับมือใหม่และมืออาชีพ มาเริ่มดูกันดีกว่าการนับแต้มของเกมไพ่เสือมังกรนับกันยังไงบ้าง
- ไพ่เอส ( A ) จะมีแต้มเท่ากับ 1 แต้ม
- ไพ่ตัวเลขคือ 1,2,3,4,5,6,7,8,9,10 จะนับแต้มตามจำนวนเลขที่อยู่บนไพ่
- ไพ่เจ ( J ) จะมีแต้มเท่ากับ 11 แต้ม
- ไพ่คิว ( Q ) จะมีแต้มเท่ากับ 12 แต้ม
- ไพ่เค ( K ) จะมีแต้มเท่ากับ 13 แต้ม ถือเป็นไพ่ที่มีแต้มสูงสุด
อัตราการจ่ายของเกมไพ่เสือมังกร
- ฝั่งเสือมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 1:1
- ฝั่งมังกรมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 1:1
- ฝั่งเสมอมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 1:8
- ฝั่งคี่มีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 1:75
- ฝั่งคู่มีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 1:05
- ฝั่งแดงมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 1:9
- ฝั่งดำมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 1:9
สำหรับผู้ที่สนใจต้องการเล่นเราขอแนะนำให้คุณควรขอทดสอบก่อนเล่นจริงเพื่อทำความเข้าใจกับเกมให้มากยิ่งขึ้นส่วนผู้ที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถหาดูในภายในเว็บไซต์ของเรา
วิธีเล่นไพ่เสือมังกร เล่นยังไง
วิธีการเล่นไพ่เสือมังกร มีความคล้ายคลึงกับวิธีเล่นบาคาร่า มากๆ เพียงแต่ว่าวิธีเล่นไพ่เสือมังกร จะตัดสินผลแพ้ชนะด้วยไพ่ 1 ใบ ไม่มีการเปิดไพ่ใบที่ 2 หรือ 3 เหมือนบาคาร่า
โดย ผู้เล่น ต้องเลือก แทงว่า ไพ่ฝั่ง เสือ หรือมังกร จะมีแต้มสูงกว่ากัน และรูปแบบ การแทง จะมีให้เลือกแค่ 3 รูปแบบ เท่านั้น
หลังจากที่เลือก ห้อง คาสิโนสด ที่ชอบแล้ว ขั้นตอน ในการแทง ไพ่เสือมังกร จะเป็นไปตามนี้
- เลือกแทงระหว่าง ‘เสือ’, ‘มังกร’ หรือ ‘เสมอ’ (แทงสวนระหว่าง เสือ และ มังกร ไม่ได้นะ)
- ดีลเลอร์แจกไพ่ฝั่งละ 1 ใบ
- เปิดไพ่ และวัดแต้มว่าฝั่งไหนได้แต้มมากกว่า ฝั่งนั้นชนะเดิมพันทันที
รูปแบบการแทงไพ่เสือมังกร
แทงฝั่งมังกร ([size= 12.0pt; font-family: 'Tahoma',sans-serif]Dragon)[/size]
การแทงฝั่งมังกร หรือ ฝั่งสีแดง คือการที่เราวางเดิมพันว่า แต้มของฝั่งมังกรจะมากกว่าแต้มของฝั่งเสือ ซึ่งผู้เล่นฝั่งมังกรจะได้รับไพ่ และมีโอกาสได้เปิดไพ่ก่อน ทำให้รู้คะแนนก่อนนั่นเอง โดยอัตราการจ่ายเงินเดิมพันอยู่ที่ 1:1
แทงฝั่งเสือ ([size= 12.0pt; font-family: 'Tahoma',sans-serif]Tiger)[/size]
แทงฝั่งเสือ หรือ ฝั่งสีน้ำเงิน ก็คือการที่ทายว่าฝั่งเสือจะมีแต้มมากกว่าฝั่งมังกรนั่นเอง ซึ่งผู้เล่นฝั่งเสือจะได้รับไพ่ทีหลัง ซึ่งทำให้รู้คะแนนทีหลังฝั่งมังกร โดยอัตราการจ่ายเงินเดิมพันอยู่ที่ 1:1 เช่นเดียวกัน
แทงเสมอ ([size= 12.0pt; font-family: 'Tahoma',sans-serif]Tie)[/size]
การแทงรูปแบบนี้ คือการที่เราเลือกเดิมพันว่า แต้มของทั้งสองฝั่งจะมีค่าเท่ากัน ซึ่งโอกาสที่ไพ่ทั้งสองฝั่งจะออกมาเสมอกันนั้นเป็นไปได้ง่ายกว่าเกมไพ่ชนิดอื่นๆ จึงทำให้อัตราจ่ายเงินเดิมพันสูงถึง 1:8 กันเลยทีเดียว
ตัวอย่างการแทงไพ่เสือมังกร
กติกาการเล่นไพ่เสือมังกร
- ผู้เล่นจะต้องเลือกเดิมพันในช่อง มังกร(สีแดง) เสือ(สีน้ำเงิน) และเสมอ
- แต่ละเกมการเล่นจะมีเวลาให้วางเดิมพันทั้งหมด 25-50 วินาที เท่านั้น ขึ้นอยู่กับเว็บไซต์ที่ให้บริการ และโต๊ะที่เล่น ดังนั้นควรดูให้ดีก่อนเล่น
- ดีลเลอร์จะเป็นคนแจกไพ่ ฝั่งละ 1 ใบ โดยฝั่งที่ชนะคือ ฝั่งที่มีแต้มมากกว่า ซึ่งเป็นเกมไพ่เสือมังกรเป็นเกมที่เล่นแบบไพ่เดียวจบ ดังนั้นวัดดวงกันไปเลยว่าฝั่งไหนจะมา
- แต้มของไพ่แต่ละใบก็ตามหน้าเลขไพ่ ยกเว้นในส่วนของ K = 13, Q= 12, J= 11 และ A= 1
- หากผลออกมาเสมอ ผู้เล่นที่วางเดิมพันทั้งในฝั่งของมังกรและเสือ จะต้องเสียเงินเดิมพันครึ่งนึงที่วางลงไป ยกตัวอย่างเช่น ถ้าผู้เล่นวางเดิมพันฝั่งเสือ 200 บาท แล้วผลออกมาเสมอ ก็จะต้องเสียเงินเดิมพัน 100 บาท ส่วนอีก 100 บาทก็ได้กลับไปนั่นเอง
จะเห็นได้ว่ากติกาการเล่น และรูปแบบการเล่นไพ่เสือมังกรนั้นมีความตรงไปตรงมา ไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อน อีกทั้งยังเป็นเกมที่จบเร็วมากๆ
สูตรไพ่เสือมังกร ให้ได้เงินจริง
ในส่วนนี้เราจะมาพูดถึงเทคนิค หรือสูตรวิธีเล่นไพ่เสือมังกรออนไลน์ ให้ได้เงินจริง และมีโอกาสชนะมากกว่าการแทงแบบเดาสุ่ม ซึ่งไม่ว่าจะเป็นนักพนันมือใหม่ หรือเซียนคาสิโน ก็สามารถนำเทคนิคนี้ไปปรับใช้ ในการเล่นเสือมังกรกันดูได้
[size= 12.0pt; font-family: 'Tahoma',sans-serif]1) สูตรเค้าไพ่เสือมังกร[/size]
เทคนิคนี้ถือเป็นเทคนิคขั้นพื้นฐานที่ทุกคนจำเป็นจะต้องรู้ เพราะมีวิธีสังเกตที่ไม่ยาก โดยเค้าไพ่ก็คือ เมื่อฝั่งใดฝั่งหนึ่งชนะติดต่อกันหลายครั้ง ยกตัวอย่างเช่น หากฝั่งมังกรชนะติดต่อกัน 3 ครั้ง ครั้งที่ 4 มีโอกาสสูงมาก ที่ไพ่จะออกมาเป็นมังกร เป็นต้น
[size= 12.0pt; font-family: 'Tahoma',sans-serif]2) สูตรเสือมังกร เค้าไพ่ปิงปอง[/size]
เทคนิคนี้มีลักษณะการออกไพ่ที่สลับกันไปมาแต่ละฝั่ง เหมือนการเล่นปิงปอง เช่น ไพ่ออกฝั่งเสือ, มังกร, เสมอ และ เสือ แบบนี้เป็นต้น ซึ่งเมื่อเกิดเค้าไพ่ปิงปองขึ้นมา เราก็ขอแนะนำให้ผู้เล่นลงเดิมพันสลับกันไปเรื่อยๆ จนกว่าเค้าไพ่จะออกมาเป็นแบบซ้ำๆ กัน แล้วเราก็ถึงเอาเทคนิคก่อนหน้ามาใช้ได้
[size= 12.0pt; font-family: 'Tahoma',sans-serif]3) สูตรเค้าไพ่ [/size]2 ตัวติด
เทคนิคนี้คือ การที่ฝั่งนึงชนะ 2 ครั้งติดแล้วเปลี่ยนฝั่ง กลับมาชนะ 2 ครั้งติดอีกเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น ฝั่งมังกรชนะ 2 ครั้งติด แล้วต่อมา ฝั่งเสือก็ชนะ 2 ครั้งติด
ซึ่งถ้าเกิดไพ่สองตัวติดขึ้นมา เราก็ขอแนะนำให้ผู้เล่นแทงตามฝั่งที่มีแววว่าจะชนะครั้งที่ 2 นั่นเอง
ทำความรู้จักกับไพ่เสือมังกร
สมัครสมาชิกคลิ๊ก
แทงเสือมังกรออนไลน์